เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เผยกระบวนการสำคัญในการเอาชนะอาการบาดเจ็บสาหัสที่เข่า
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังลิเวอร์พูล ยอมรับว่าเขาต้อง “ทำความรู้จัก” เข่าของเขาอีกครั้งหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจาก ACL ในเดือนตุลาคม 2020
การปะทะกับผู้รักษาประตูเอฟเวอร์ตัน จอร์แดน พิคฟอร์ด ทำให้ฟาน ไดจ์คพลาดอาชีพการงานของเขาถึงเก้าเดือน แต่แม้หลังจากที่เขากลับมา กองหลังชาวดัตช์รายนี้ยังต้องเผชิญกับคำถามมากมายเกี่ยวกับความสามารถของเขา ซึ่งขยายไปสู่ฤดูกาลที่วุ่นวายของลิเวอร์พูล 2022/23
อย่างไรก็ตาม ความสงสัยเหล่านั้นหมดไปในปีนี้ เนื่องจากฟาน ไดจ์คทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในแดนหลัง ลิเวอร์พูลชุดที่เข้าสู่ช่วงพักเบรคทีมชาติเดือนพฤศจิกายน อันดับสองในพรีเมียร์ลีกด้วยสถิติการป้องกันที่ดีที่สุดของดิวิชั่น
“อาการบาดเจ็บของฉันสาหัสมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณจะต้องรู้จักเข่าของตัวเองอีกครั้ง พูดง่ายๆ ก็คือ” ฟาน ไดจ์คสารภาพ
“แต่ตอนนี้ฉันไม่สังเกตเห็นมันอีกแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นมากนัก ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถทำทุกอย่างได้อีกครั้ง”
ฟาน ไดจ์คกล่าวต่อไปว่าเขาทำผลงานได้ไม่ดีนักในฤดูกาลที่แล้วทั้งสโมสรและทีมชาติ ทำให้เขาต้องค้นหาวิธีจัดการกับฟอร์มของเขา
“ฉันให้ความสำคัญกับคำวิจารณ์อย่างจริงจัง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด” เขาพูดต่อ “ฉันรู้ดีเมื่อฉันเล่นได้ดีและเมื่อฉันเล่นไม่ดี
“ฤดูกาลที่แล้วก็แค่ปานกลาง บางครั้งก็แย่ด้วยซ้ำ” ในฐานะทีม เรายังพยายามดิ้นรนเพื่อหาจังหวะที่ดีที่ลิเวอร์พูล เนชั่นส์ลีกกับทีมดัตช์ก็ไม่ดีเช่นกัน ฉันคิดและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้มามากเพื่อให้สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ฉันคิดว่ามันได้ผล สิ่งต่างๆ เป็นไปด้วยดีอีกครั้งตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน”
การกลับคืนสู่ฟอร์มของฟาน ไดจ์คยังเกิดขึ้นพร้อมกับการตัดสินใจของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่จะมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้เขาหลังจากการจากไปของจอร์แดน เฮนเดอร์สันในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่กองหลังยอมรับว่าช่วยกระตุ้น เขาต่อไป
“โดยธรรมชาติแล้วฉันพบว่ามันสวยงามและมีเกียรติมาก” เขาพูดว่า. “มีอะไรเกี่ยวข้องมากมาย บางทีอาจจะมากกว่าที่สโมสรมากกว่าที่ทีมชาติด้วยซ้ำ”
“คุณมีความรับผิดชอบอย่างมากต่อทั้งทีม โดยเฉพาะเด็กๆ และต่อสโมสรโดยรวมด้วย” แน่นอนว่ามันไม่ส่งผลเสียต่อเกมของฉัน ไม่แน่ชัด มันเป็นแรงจูงใจมากกว่า”